รากฟันเทียม คืออะไร คู่มือสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจ
รากฟันเทียมคืออะไร และทำไมถึงเป็นที่นิยม
รากฟันเทียม หรือ Dental Implant เป็นการรักษาทางทันตกรรมที่ใช้สกรูไทเทเนียมใส่เข้าไปในกระดูกขากรรไกรเพื่อทดแทนรากฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป รากฟันเทียมถือเป็นนวัตกรรมการรักษาที่ปฏิวัติวงการทันตกรรมในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากสามารถให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด
ในปัจจุบัน รากฟันเทียมได้รับความนิยมอย่างสูงจากผู้ป่วยทั่วโลก เพราะให้ความรู้สึกเหมือนมีฟันธรรมชาติคืนมา ทั้งในด้านความแข็งแรง ความสวยงาม และการใช้งาน การวิจัยพบว่า รากฟันเทียมมีอัตราความสำเร็จสูงถึง 95-98% เมื่อทำโดยทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์
ประเภทของรากฟันเทียมที่ควรรู้จัก
รากฟันเทียมตามตำแหน่ง
รากฟันเทียมฟันหน้า เป็นการรักษาที่ต้องการความประณีตสูง เนื่องจากเน้นทั้งความสวยงามและการใช้งาน ซึ่งต้องพิจารณาถึงสีสัน รูปทรง และการจัดเรียงให้เข้ากับฟันธรรมชาติข้างเคียง รากฟันเทียมฟันหน้าต้องการการวางแผนที่ระมัดระวัง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและสวยงาม
รากฟันเทียมฟันหลัง มีความซับซ้อนในด้านการรับแรงกัด โดยต้องสามารถรองรับแรงกัดที่มากกว่าฟันหน้าถึง 3-4 เท่า การออกแบบรากฟันเทียมฟันหลังจึงต้องเน้นความแข็งแรงและทนทาน
รากฟันเทียมตามระยะเวลาการรักษา
รากฟันเทียมแบบปกติ ใช้เวลารักษา 3-4 เดือน โดยแบ่งเป็น 2 ขั้นตอนหลัก คือ การใส่รากเทียมและการรอให้กระดูกยึดติด จากนั้นจึงทำครอบฟันตัวจริง
รากฟันเทียมวันเดียวเสร็จ เป็นเทคนิคพิเศษที่ Global Dental Complex มีความเชี่ยวชาญ ผู้ป่วยสามารถได้รับการถอนฟัน ใส่รากเทียม และใส่ครอบฟันชั่วคราวในวันเดียวกัน รากเทียมและครอบฟันหน้าในวันเดียว เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและไม่ต้องการใช้ฟันปลอมถอดได้
ข้อดีของรากฟันเทียมที่ทำให้เป็นที่นิยม
ความทนทานและแข็งแรง
รากฟันเทียมทำจากไทเทเนียมชนิดพิเศษที่มีคุณสมบัติ Biocompatible หมายความว่าสามารถเข้ากันได้ดีกับร่างกายและไม่ก่อให้เกิดการแพ้ การวิจัยพบว่า รากฟันเทียมคุณภาพดีสามารถใช้งานได้นานถึง 25-30 ปี หรือตลอดชีวิตหากดูแลรักษาอย่างเหมาะสม
ความเป็นธรรมชาติในการใช้งาน
หนึ่งในข้อดีที่สำคัญที่สุดของรากฟันเทียมคือความรู้สึกในการใช้งานที่เหมือนฟันธรรมชาติ ผู้ป่วยสามารถเคี้ยวอาหารได้อย่างปกติ พูดได้ชัดเจน และยิ้มได้อย่างมั่นใจ ซึ่งแตกต่างจากฟันปลอมถอดได้ที่อาจมีปัญหาเรื่องความไม่มั่นคงหรือการออกเสียงที่ไม่ชัด
การรักษาสุขภาพกระดูกขากรรไกร
รากฟันเทียมช่วยกระตุ้นกระดูกขากรรไกรผ่านการใช้งานตามปกติ ป้องกันการสูญเสียกระดูกที่เกิดขึ้นหลังจากการสูญเสียฟัน การวิจัยแสดงให้เห็นว่า หลังจากสูญเสียฟัน กระดูกขากรรไกรจะเริ่มหดตัวภายใน 3-6 เดือนแรก รากฟันเทียมจึงเป็นวิธีเดียวที่สามารถป้องกันปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสียและข้อจำกัดของรากฟันเทียม
ค่าใช้จ่ายเริ่มแรกสูง
รากฟันเทียมมีค่าใช้จ่ายเริ่มแรกที่สูงกว่าทางเลือกอื่น เช่น ฟันปลอมถอดได้หรือสะพานฟัน อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาในระยะยาว รากฟันเทียมกลับให้ความคุ้มค่ามากกว่า เนื่องจากความทนทานและการไม่ต้องเปลี่ยนหรือซ่อมแซมบ่อยครั้ง
ระยะเวลาการรักษาที่นาน
การทำรากฟันเทียมแบบปกติต้องใช้เวลา 3-4 เดือน ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ทันที อย่างไรก็ตาม เทคนิครากเทียมฟันหน้าแบบใหม่สามารถลดระยะเวลาลงได้อย่างมาก
ข้อจำกัดด้านสุขภาพ
ผู้ป่วยบางกลุ่มอาจไม่เหมาะสำหรับการทำรากฟันเทียม เช่น ผู้ที่มีโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ผู้ที่สูบบุหรี่หนัก หรือผู้ที่มีปัญหากระดูกขากรรไกรไม่เพียงพอ ทันตแพทย์จำเป็นต้องประเมินสุขภาพโดยรวมก่อนการรักษา
ขั้นตอนการทำรากฟันเทียมอย่างละเอียด
ขั้นตอนที่ 1: การตรวจและวินิจฉัย
การตรวจครั้งแรกเป็นขั้นตอนสำคัญที่ทันตแพทย์จะประเมินสุขภาพช่องปากโดยรวม การถ่าย X-ray และ CT Scan เพื่อดูโครงสร้างกระดูกขากรรไกร การวางแผนการรักษาจะต้องพิจารณาถึงปัจจัยหลายด้าน เช่น ปริมาณกระดูก ตำแหน่งของเส้นประสาท และความหนาของเหงือก
ขั้นตอนที่ 2: การเตรียมพื้นที่
หากมีฟันเก่าที่ต้องถอน ทันตแพทย์จะใช้เทคนิคการถอนที่ละเอียดอ่อนเพื่อรักษากระดูกให้เหลืออยู่มากที่สุด ในบางกรณีอาจต้องทำการปลูกกระดูกหรือยกไซนัสเพื่อเพิ่มปริมาณกระดูกให้เพียงพอสำหรับการใส่รากเทียม
ขั้นตอนที่ 3: การใส่รากฟันเทียม
การใส่รากฟันเทียมจะทำภายใต้การชาเฉพาะที่ ทันตแพทย์จะเจาะรูในกระดูกขากรรไกรด้วยเครื่องมือพิเศษ จากนั้นใส่รากเทียมลงไปในตำแหน่งที่กำหนดไว้ ขั้นตอนนี้ต้องอาศัยความชำนาญสูงเพื่อให้รากเทียมอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ขั้นตอนที่ 4: การรอให้รากเทียมยึดติด (Osseointegration)
หลังจากใส่รากเทียมแล้ว จะต้องรอให้เกิดกระบวนการ Osseointegration ซึ่งเป็นการที่รากเทียมและกระดูกขากรรไกรเชื่อมติดกันอย่างแน่นหนา ระยะเวลานี้โดยปกติใช้เวลา 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยและคุณภาพของกระดูก
ขั้นตอนที่ 5: การทำครอบฟัน
เมื่อรากเทียมยึดติดกับกระดูกแล้ว ทันตแพทย์จะทำการติดตั้งหัวต่อ (Abutment) และทำครอบฟันที่ออกแบบเฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละคน ครอบฟันจะได้รับการปรับสี รูปทรง และขนาดให้เข้ากับฟันธรรมชาติข้างเคียง
ราคารากฟันเทียมและปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าใช้จ่าย
ราคาเฉลี่ยในปี 2025
ราคารากฟันเทียมในประเทศไทยมีความแตกต่างกันตามคุณภาพของวัสดุและประสบการณ์ของทันตแพทย์ โดยเฉลี่ยแล้ว รากฟันเทียมมีราคาระหว่าง 49,000-100,000 บาทต่อซี่ ทั้งนี้ไม่รวมค่า ปลูกกระดูกและค่าใช้จ่ายเสริมอื่นๆ
ที่ Global Dental Complex เรามีแพ็กเกจรากฟันเทียมที่หลากหลาย เริ่มต้นที่ 50,000 บาทต่อซี่ สำหรับรากเทียมคุณภาพสูงพร้อมครอบฟันตัวจริง ราคานี้รวมถึงการดูแลหลังการรักษาและการติดตามผลอย่างใกล้ชิด
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคา
แบรนด์รากฟันเทียม เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคา รากเทียมแบรนด์ดังจากยุโรปและอเมริกา เช่น Astra Tech, Straumann, และ Hiossen มีราคาสูงกว่าแบรนด์จากเอเชีย แต่ให้ความมั่นใจด้านคุณภาพและผลการวิจัยระยะยาว
ความซับซ้อนของกรณี เช่น การต้องปลูกกระดูก การยกไซนัส หรือการรักษาโรคเหงือกก่อนใส่รากเทียม จะเพิ่มค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ประสบการณ์ทันตแพทย์ ทันตแพทย์รากเทียมที่มีประสบการณ์สูงมักจะมีค่าบริการที่สูงกว่า แต่ให้ความมั่นใจด้านผลลัพธ์และความปลอดภัย
เทคนิครากฟันเทียมวันเดียวเสร็จ: นวัตกรรมสำหรับคนยุคใหม่
ความพิเศษของเทคนิคนี้
เทคนิครากฟันเทียมวันเดียวเสร็จเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ป่วยยุคใหม่ที่ต้องการความรวดเร็วแต่ไม่ต้องการลดทอนคุณภาพ Global Dental Complex เป็นหนึ่งในไฟล์ผู้นำด้านเทคนิคนี้ โดยมีอัตราความสำเร็จสูงถึง 95% สำหรับกรณีฟันหน้า
การทำรากฟันเทียมวันเดียวเสร็จต้องอาศัยการวางแผนที่ละเอียดและเทคโนโลยีทันสมัย รวมถึงการใช้ 3D Imaging เพื่อวางแผนตำแหน่งรากเทียมอย่างแม่นยำ
เงื่อนไขสำหรับการทำรากฟันเทียมวันเดียวเสร็จ
ไม่ใช่ทุกกรณีที่สามารถทำรากฟันเทียมวันเดียวเสร็จได้ ต้องมีเงื่อนไขดังนี้:
- กระดูกขากรรไกรมีความหนาและแข็งแรงเพียงพอ
- ผู้ป่วยมีสุขภาพโดยรวมที่ดี
- สามารถปฏิบัติตามข้อแนะนำหลังการรักษาได้อย่างเคร่งครัด
การเลือกแบรนด์รากฟันเทียมที่เหมาะสม
แบรนด์ชั้นนำระดับโลก
Astra Tech จาก สวีเดน มีจุดเด่นด้านการออกแบบที่สามารถรักษาระดับกระดูกรอบรากเทียมได้ดีกว่า แบรนด์อื่น และมีการวิจัยที่ต่อเนื่องยาวนานมากกว่า 40 ปี และยังมีค่าใช้จ่ายที่จับต้องได้
Straumann จากสวิตเซอร์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับระดับโลก มีเทคโนโลยี SLActive surface ที่เคลมว่าช่วยให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกได้เร็วขึ้น
Hiossen จากอเมริกา เป็นแบรนด์น้องใหม่ ยังไม่ได้มีการวิจัยรับรองยาวนาานมากเท่า อีก 2 แบรนด์ข้างบน แต่ก็ถือว่าได้มาตรฐานตะวันตก เพราะผลิตในประเทศสหรัฐอเมริกา
การเลือกแบรนด์ตามงบประมาณ
สำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แบรนด์จากเกาหลีใต้ เช่น Osstem และ NeoBiotech เป็นทางเลือกที่ดี มีคุณภาพมาตรฐานสากลแต่ราคาประหยัดกว่า แบรนด์เหล่านี้ได้รับการรับรองจาก FDA และมีการใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วโลก แต่หลักฐานทางการวิจัยรวมทั้งการติดตามผล หลังการใช้อาจมีน้อยกว่า
การดูแลรักษารากฟันเทียมให้อยู่ยาวนาน
การดูแลในระยะแรก
หลังจากใส่รากฟันเทียม การดูแลในช่วง 2 สัปดาห์แรกเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ป่วยควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวบริเวณแผลผ่าตัดรากฟันเทียม ดูแลความสะอาดบริเวณแผลผ่าตัด โดยใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อ และทานยาตามที่ทันตแพทย์แนะนำ
การดูแลระยะยาว
เมื่อรากฟันเทียมยึดติดสมบูรณ์แล้ว การดูแลจะคล้ายกับฟันธรรมชาติ ต้องแปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ ใช้ไหมขัดฟัน และมาตรวจฟันตามนัด การดูแลที่ดีจะช่วยให้รากฟันเทียมใช้งานได้นานและป้องกันปัญหาต่างๆ
สัญญาณเตือนที่ต้องระวัง
ผู้ป่วยควรสังเกตสัญญาณที่อาจบ่งบอกถึงปัญหา เช่น เหงือกบวม เลือดออก ครอบฟันบนรากเทียมมีการขยับ หรือความรู้สึกไม่สบายบริเวณรากเทียม หากพบสัญญาณเหล่านี้ควรรีบปรึกษาทันตแพทย์ทันที
การเปรียบเทียบรากฟันเทียมกับทางเลือกอื่น
รากฟันเทียม vs ฟันปลอมถอดได้
ฟันปลอมถอดได้มีข้อดีด้านราคาที่ถูกกว่าและไม่ต้องผ่าตัด แต่มีข้อเสียด้านความสะดวกในการใช้งาน อาจเกิดการหลุดขณะพูดหรือรับประทานอาหาร เคี้ยวแล้วเจ็บ เคี้ยวไม่ละเอียด รากฟันเทียมสามารถให้ความรู้สึกเหมือนฟันธรรมชาติได้มากกว่าและไม่ต้องถอดออกมาทำความสะอาด
รากฟันเทียม vs สะพานฟัน
สะพานฟันต้องทำการกรอฟันข้างเคียงเพื่อเป็นเสาค้ำ ซึ่งเป็นการทำลายฟันที่ยังดีอยู่ รากฟันเทียมไม่ต้องทำการกรอฟันธรรมชาติข้างเคียง และสามารถดูแลความสะอาดได้ง่ายกว่า เพราะเป็นซี่เดี่ยวๆ นอกจากนี้ สะพานฟันมีอายุการใช้งานแค่ประมาณ 5-10 ปี ในขณะที่รากฟันเทียมสามารถใช้งานได้นานกว่า
เทคโนโลยีใหม่ในการทำรากฟันเทียม
การใช้ 3D Technology
เทคโนโลยี 3D Planning ช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถจำลองตำแหน่งรากเทียมในคอมพิวเตอร์ก่อนการผ่าตัดจริง ทำให้ลดความเสี่ยงและเพิ่มความแม่นยำในการรักษา
Guided Surgery
เทคนิค Guided Surgery ใช้แม่แบบที่ทำจากข้อมูล 3D เพื่อนำทางการผ่าตัด ทำให้การใส่รากเทียมมีความแม่นยำสูงและลดเวลาในการผ่าตัด ผู้ป่วยจะมีความเจ็บปวดน้อยลงและหายเร็วขึ้น
ความปลอดภัยและผลข้างเคียงของรากฟันเทียม
อัตราความสำเร็จ
การวิจัยระยะยาวแสดงให้เห็นว่า รากฟันเทียมมีอัตราความสำเร็จสูงกว่า ถ้าทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อัตราความสำเร็จ 10 ปีของรากฟันเทียมอยู่ที่ประมาณ 95%
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
แม้ว่ารากฟันเทียมจะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจมีภาวะแทรกซ้อนในบางกรณี เช่น การติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด การไม่ยึดติดของรากเทียมกับกระดูก หรือการบาดเจ็บเส้นประสาท การเลือกทันตแพทย์รากฟันเทียมที่มีประสบการณ์สูง จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมาก
ใครควรทำรากฟันเทียม
กลุ่มผู้ป่วยที่เหมาะสม
รากฟันเทียมเหมาะสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันหนึ่งซี่หรือหลายซี่ และต้องการทางเลือกการรักษาที่ให้ผลลัพธ์คล้ายฟันธรรมชาติมากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่:
- ต้องการความสะดวกในการใช้งาน
- ไม่ต้องการใช้ฟันปลอมถอดได้
- มีกระดูกขากรรไกรเพียงพอหรือสามารถปลูกกระดูกได้
- มีสุขภาพโดยรวมที่ดีและไม่มีโรคประจำตัวที่รุนแรง
กลุ่มที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ
ผู้ป่วยบางกลุ่มควรปรึกษาทันตแพทย์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ เช่น:
- ผู้ที่มีโรคเบาหวาน
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- ผู้ที่มีโรคหัวใจ
- ผู้ที่ใช้ยาบางประเภทที่อาจส่งผลต่อการหายของกระดูก
การเตรียมตัวก่อนทำรากฟันเทียม
การตรวจสุขภาพเบื้องต้น
ก่อนการทำรากฟันเทียม ผู้ป่วยควรผ่านการตรวจสุขภาพโดยรวม รวมถึงการตรวจเลือดเพื่อดูระดับน้ำตาลและสมรรถภาพการแข็งตัวของเลือด การตรวจเหล่านี้จะช่วยให้ทันตแพทย์ประเมินความเสี่ยงและวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
การเตรียมจิตใจ
การทำรากฟันเทียมเป็นขั้นตอนที่ต้องใช้เวลา ผู้ป่วยควรเตรียมจิตใจสำหรับการรักษาที่อาจใช้เวลาหลายเดือน และต้องมีความอดทนในการปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด
ข้อควรระวังหลังทำรากฟันเทียม
สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด
ระยะนี้เป็นช่วงที่สำคัญที่สุด ผู้ป่วยต้องหลีกเลี่ยงการเคีั้ยวบริเวณที่ทำรากเทียม และ หลีกเลี่ยง อาหารแข็งและรสจัด รับประทานอาหารเหลวหรืออ่อนเท่านั้น หลีกเลี่ยงการบ้วนปากแรงๆ
เดือนแรกถึงเดือนที่สอง
เมื่อแผลหายดีแล้ว ผู้ป่วยสามารถรับประทานอาหารได้หลากหลายขึ้น แต่ยังคงต้องระวังไม่ให้แรงกัดไปโดนบริเวณรากเทียมโดยตรง การเคี้ยวโดนรากฟันเทียมอาจทำให้รากเทียมเคลื่อนที่และไม่ยึดติดกับกระดูก
แนวโน้มและอนาคตของรากฟันเทียม
เทคโนโลยี Digital Dentistry
อนาคตของรากฟันเทียมกำลังเข้าสู่ยุค Digital Dentistry อย่างเต็มตัว การใช้ Intraoral Scanner, CAD/CAM Technology และ 3D Printing จะทำให้การรักษามีความแม่นยำมากขึ้นและใช้เวลาน้อยลง
วัสดุใหม่ที่กำลังพัฒนา
นักวิจัยกำลังพัฒนาวัสดุใหม่สำหรับรากฟันเทียม เช่น Zirconia Implants ที่มีสีขาวธรรมชาติและไม่มีโลหะ รวมถึง Surface Treatment ใหม่ที่ช่วยให้รากเทียมยึดติดกับกระดูกได้เร็วขึ้น
คำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับรากฟันเทียม
รากฟันเทียมเจ็บไหม?
การใส่รากฟันเทียมทำภายใต้การชาเฉพาะที่ ผู้ป่วยจึงไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการผ่าตัด หลังการผ่าตัดอาจมีความเจ็บปวดเล็กน้อยซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวดทั่วไป
รากฟันเทียมใช้ได้นานแค่ไหน?
รากฟันเทียมคุณภาพดีที่ดูแลเหมาะสมสามารถใช้งานได้ 25-30 ปี หรือตลอดชีวิต การศึกษาติดตามระยะยาวแสดงให้เห็นว่า รากเทียมที่ใส่มากกว่า 20 ปียังคงทำงานได้ดีในผู้ป่วยส่วนใหญ่
ใครไม่ควรทำรากฟันเทียม?
ผู้ที่มีโรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ ผู้ที่สูบบุหรี่หนัก ผู้ที่มีโรคกระดูกพรุน หรือผู้ที่กำลังได้รับการรักษาด้วยรังสีบริเวณศีรษะและคอ ควรปรึกษาทันตแพทย์อย่างละเอียดเพื่อประเมินความเสี่ยงและประโยชน์
ทำไมต้องเลือก Global Dental Complex
ทีมทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
Global Dental Complex มีทีมทันตแพทย์ด้านรากฟันเทียมที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี ได้รับการรับรองจากสถาบันทันตแพทย์ชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ทำให้มั่นใจได้ในคุณภาพการรักษา
เทคโนโลยีทันสมัย
เราใช้เทคโนโลยี 3D Imaging, Digital Planning และ Guided Surgery ที่ทันสมัยที่สุด เพื่อให้การรักษามีความแม่นยำสูงสุดและลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด
การดูแลหลังการรักษาที่ครบถ้วน
เรามีระบบติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด รวมถึงการรับประกันรากฟันเทียมและบริการซ่อมแซมในกรณีที่เกิดปัญหา ทำให้ผู้ป่วยมีความมั่นใจในการรักษา
คำแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจ
การเลือกคลินิกที่เหมาะสม
การเลือกคลินิกควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ได้แก่ ประสบการณ์ของทันตแพทย์ เทคโนโลยีที่ใช้ ความสะอาดและมาตรฐานของคลินิก รีวิวจากผู้ป่วยเก่า และการดูแลหลังการรักษา
การเตรียมงบประมาณ
ควรเตรียมงบประมาณให้ครอบคลุมทั้งค่ารักษาหลักและค่าใช้จ่ายเสริม เช่น การปลูกกระดูก การรักษาโรคเหงือก หรือการทำฟันชั่วคราว การวางแผนทางการเงินที่ดีจะช่วยให้การรักษาดำเนินไปอย่างราบรื่น
สรุป
รากฟันเทียมเป็นมากกว่าการรักษาทางทันตกรรม แต่เป็นการลงทุนในคุณภาพชีวิตระยะยาว การมีฟันที่แข็งแรงและสวยงามส่งผลต่อความมั่นใจ การทำงาน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น แม้ว่าค่าใช้จ่ายเริ่มแรกจะสูง แต่เมื่อคำนวณในระยะยาวแล้ว รากฟันเทียมให้ความคุ้มค่ามากกว่าทางเลือกอื่น
สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาทำรากฟันเทียม การเลือกคลินิกและทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุด Global Dental Complex พร้อมให้คำปรึกษาและบริการรากฟันเทียมด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและทีมผู้เชี่ยวชาญ
หากคุณสนใจรากฟันเทียมหรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับรากเทียมฟันหน้า สามารถติดต่อได้ที่ Global Dental Complex โทร 065-669-9191 หรือ 02-591-9191 เพื่อนัดหมายปรึกษาแพทย์ฟรี